จอร์เจียประเทศ 2 ทวีป ที่ต้องไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต
สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับประเทศจอร์เจีย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งมรดกโลกอันเก่าแก่ เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมที่มีการผสมผสานระหว่างสองทวีปไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยความที่ประเทศนี้อยู่แทบจะสุดขอบของทวีปเอเชีย และอยู่ใกล้กับทวีปยุโรปมาก จึงได้รับการขนานนามว่า ” ประเทศสองทวีป “ (ทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป) ประเทศนี้ยังเป็นประเทศที่เราคนไทยสามารถไปเที่ยวได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า (Visa) และสามารถอยู่ในประเทศนี้ได้นานถึง 365 วันต่อครั้งเลยค่ะ
เมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย คือเมืองทบิลีซี เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจียเป็นศูนย์กลางการปกครองและย่านเศรษฐกิจของประเทศจอร์เจีย ทบิลีซีมีประชากรประมาณ 1,473,551 คน ประกอบกับมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เพราะมีแหล่งน้ำมากมายพร้อมกับมีทำเลที่ดีในการปกครองทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองหลวงในที่สุด
ประเทศจอร์เจียมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่สุดทางตะวันตกของทวีปเอเชียเลย โดยเป็นประเทศที่มีความงามและความอลังการของเทือกเขาคอเคซัสเป็นพระเอกของประเทศ และมีอาณาเขตของประเทศในทิศต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ด้านทิศตะวันตกติดกับทะเลดำ (Black Sea)
- ด้านทิศใต้ติดกับประเทศตุรกี (Turkey), อาร์เมเนีย (Armenia) และอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan)
- ด้านทิศตะวันออกติดกับประเทศอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) และรัสเซีย (Russia)
- ด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศรัสเซีย (Russia)
หนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความเป็นชาวจอร์เจียที่ดีที่สุดก็คือ Mother of a Georgian หรืออีกชื่อคือ Kartlis Deda เป็นรูปปั้นหญิงสาวอยู่บนยอดเขาโซโลลากิ (Solo Laki Hill) ในนครทบิลิซี โดยมือขวาของเธอจะถือดาบ ส่วนมือซ้ายของเธอจะถือแก้วไวน์ อันสะท้อนถึงความหมายว่าหากใครที่มาเยือนจอร์เจียแบบเป็นศัตรูเธอจะใช้ดาบในมือขวาฟาดฟัน แต่หากใครที่มาเยือนอย่างเป็นมิตรไมตรี เธอจะต้อนรับด้วยไวน์ในมือซ้ายอย่างอบอุ่น
โบสถ์เกอลาติ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1106 ทางตะวันตกของประเทศจอร์เจีย นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอก ตัวโบสถ์โดดเด่นด้วยด้านหน้าของตัวอาคารที่ใช้อิฐบล็อกขนาดใหญ่ ช่องประตูและหน้าต่างโค้งได้สัดส่วนสวยงาม เป็นหนึ่งในโบสถ์ยุคออร์โธด็อกซ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูและนักบุญต่างๆ ของศาสนาคริสต์
ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่แห่งจอร์เจีย มีกำแพงล้อมรอบ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Aragvi หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นให้เป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ มีหอคอยที่สูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ทำให้เห็นภาพทิวทัศน์อันสวยงามตะการตาที่อยู่เบื่องล่าง
สะพานแห่งสันติภาพ (THE BRIDGE OF PEACE) เป็นอีกหนึงงานสถาปัตยกรรมทีน่าสนใจในเมือง Tbilisi ออกแบบโดย สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยนชือ Michele De Lucchi สะพานมีความยาวที 150 เมตร ลักษณะการออกแบบร่วมสมัย เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6พฤษภาคม 2010
มหาวิหารซาเมบา (Sameba Cathedral) สัญลักษณ์แห่งจอร์เจียยุคใหม่ ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำคูรา สร้างขึ้นในปี 2004 เนื่องในวาระการเฉลิมฉลองการครบรอบ 2,000 ปีของคริสต์ศาสนาเป็นวิหารที่สูงที่สุด อันดับที่ 3 ของโบสถ์ออร์โธดอกในโลก สามารถจุผู้แสวงบุญได้ถึง 15,000 คน ยอดโดมทองคำให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่อลังการ และสามารถมองเห็นได้จากทุกแห่งในกรุงทบิลิซี
สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศจอร์เจียนั้นจะมีทั้งหมด 4 ฤดูได้แก่
ฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นช่วงที่มีความสวยงามของดอกไม้ ในช่วงนี้พืชพันธ์ดอกไม้ต่างๆจะพร้อมใจกันบานสะพรั่งสวยงาม
ฤดูร้อน จะเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้จะบานมีสีสันสดใสท้าแดดน่าสัมผัส และเป็นช่วงที่มีท้องฟ้าแจ่มใสที่สุด
ฤดูใบไม้ร่วง เป็นฤดูหลากสี เพราะเป็นช่วงที่ใบไม้นั้นเปลี่ยนสี ทำให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยสีสัน
ฤดูหนาว ที่เต็มไปด้วยความงามของหิมะที่ขาวหนาวจับใจ แต่เต็มไปด้วยความสนุกต่อการเล่นสกี ปั้นหิมะ