พาเที่ยวโครเอเชีย ดินแดนพระจันทร์เสี้ยว แห่งยุโรป
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกท่าน ท่องโลกกว้างไปกับเรา แถบทางฝั่งยุโรป ประเทศที่ได้สมญานามว่าดินแดนพระจันทร์เสี้ยว นั่นก็คือ โครเอเชีย (Croatia) นั่นเอง ความงามของเมืองและวิวทิวทัศน์นั้นเป็นที่ขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีมรดกโลกอยู่หลายแห่ง ควรค่าแก่การไปสัมผัสเป็นที่สุด
โครเอเชีย หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐโครเอเชีย มีอาณาเขตจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปกลาง ยุโรปใต้ และยุโรปตะวันออก ปัจจุบัน โครเอเชียเคยเป็นสาธารณรัฐในยูโกสลาเวียเดิม แต่ได้รับเอกราชใน พ.ศ. 2534 และได้สมัครเพื่อเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในอนาคต เมืองหลวงคือ ซาเกร็บ
ไปแล้วจะหลงรัก Craotia
เมืองเก่าโทรเกียร์ (Trogir)
เป็นเมืองตั้งแต่ยุคกรีกโรมันมีขนาดเล็ก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1997 โดยเมืองนี้ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองเก่า ทั้งป้อมปราการจัตุรัสและกำแพงเมือง อีกทั้งยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่พระเจ้าประทานเนื่องจาก ไม่เคยมีภัยพิบัติ แผ่นดินไหว หรือถูกทำลายและยังเป็นเมืองที่มีการดูแลศิลปะโรมาเนส-โกธิก จากยุคกลางมาอย่างดีเลิศ มุมถ่ายรูปสุดคลูของเมืองนี้ก็มีหลายจุด ถ่ายออกมาสวยมาก เมืองจะมีลักษณะอาร์ตๆ สีน้ำตาลตรอกซอกซอยเล็กๆ เชื่อมต่อกัน
อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (PlitviceLakes National Park)
เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย มีพื้นที่กว่า 295 ตารางกิโลเมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1979 จุดไฮไลท์ คือ การล่องเรือข้ามทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดอย่าง Kozjak เพื่อชมบรรยากาศโดยรอบ และชมความงามของ Big Waterfalls น้ำตกที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามทางธรรมชาติ ทะเลสาบของที่นี่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลมีตั้งแต่สีเขียวมรกต สีคราม สีฟ้า สีเทา บอกได้เลยว่าสวยแบบน่าทึ้งมาก
เมืองเก่าดูโบรฟนิค (Dubrovnik Old Town)
เมืองชายฝั่งทะเลเอเดรียติก บรรยากาศริมชายฝั่งทะเลที่มีบ้านเรือนหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมือง เป็นเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป ได้รับคำสมญานามว่า "ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก"ด้วยความลงตัวของสถาปัตยกรรมและผังเมืองที่เป็นระเบียบ องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองเก่าแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979 และยังถูกใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Game of thrones
โบสถ์เซนต์โดแนท (St. Donatus Church)
เป็นโบสถ์ไบเซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทีย โบสถ์แห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างอันเก่าแก่มีอายุกว่าพันปี และเป็นศาสนสถานที่โด่งดังที่สุด ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซาดาร์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ปัจจุบันเป็นที่จัดงานเทศกาลดนตรีประจำปีอันโด่งดัง เดอะมิวสิคคัลอีฟเวนนิงส์อินเซนต์
โบสถ์เซนต์มาร์ก (St. Mark)
โบสถ์โบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 หลังคาโมเสกหลากสีสันอันลือชื่อสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดมหาวิหารเซนต์มาร์คแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมโกธิกที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองซาเกรบ ประตูทางเข้าทางทิศใต้ของโบสถ์มีการตกแต่งด้วยรูปปั้นมากมาย ทั้งรูปปั้นพระเยซูตอนเป็นทารก รูปปั้นโจเซฟ รูปปั้นแมรี่ รูปปั้นนักบุญมาร์คและสิงโต รวมไปถึงรูปปั้นของเหล่าอัครสาวกทั้ง 12 ของพระเยซูอีกด้วย
รูปปั้นนางแห่งนกนางนวล (Maiden with the Seagull Statue)
ปิดท้ายกันด้วยรูปปั้นหญิงสาวผู้ยืนอย่างสง่างามอยู่บนโขดหินริมทะเลสีฟ้ามรกต ในเมืองโอปาทิยา (Opatija) เรื่องราวในอดีต เริ่มต้นขึ้นในปี 1891 เมื่อเคานต์อาร์เธอร์เสียชีวิตในทะเลท่ามกลางพายุรุนแรง ครอบครัวของเขาจึงตั้งรูปปั้นขึ้นเพื่อเป็นการไว้อาลัย ปัจจุบันหญิงสาวนามเจเลนา เจนดราสสิค (Jelena Jendrašić) เป็นต้นแบบของรูปปั้นนี้ และจะมีนกนางนวลบินมาเกาะที่รูปปั้นอยู่เป็นระยะ
รายละเอียดโปรแกรมเพิ่มเติม >> https://bit.ly/2UMRfgR